สโมสรจากคาซัคสถาน เพิ่งจะมีเพียงคะแนนเดียว หลังจากผ่านไป 5 นัดในรอบลีก เฟส คะแนนตามหลังอันดับ 24 ซึ่งเป็นพื้นที่สุดท้ายสำหรับการไปเล่นเพลย์ออฟ อยู่ 5 คะแนน
เทรนเนอร์ ราฟาเอล อูราซบัคห์ติน จะไม่สามารถใช้งานสองกองหน้าอย่าง ชูเอา เปาโล และ เอลแดร์ ซานตาน่า ที่บาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าทั้งคู่ และคาดว่าจะกลับมาได้ในช่วงกลางเดือนมกราคม
ทีมดังจากกรีซ เพิ่งจะมีแค่ 2 คะแนนจาก 5 เกมในรอบลีก เฟส และกำลังรอคอยชัยชนะเกมแรกเพื่อทำอันดับลุ้นติดกลุ่มเพลย์ออฟ
โฆเซ่ หลุยส์ เมนดีลีบาร์ เทรนเนอร์ชาวสเปน ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพทีมสักเท่าไหร่ โดยจะขาดเพียง อเล็กซานเดอร์ พาสชาลาคิส ผู้รักษาประตูตัวเก๋าที่ใกล้หายเจ็บน่องกลับมาแล้ว
(4-2-3-1) : เตมีร์ลัน อานาร์เบคอฟ – อเล็กซานเดอร์ มรินสกี้, อเล็กซานเดอร์ ชิโรโบคอฟ, เอกอร์ เอโรคิน, เออร์คิน ตาปาลอฟ – ดามีร์ คาซาบูลัต, แดน ลีออน กลาเซอร์ – วาเลรี่ โกรมิโก้, จอร์จินโญ่, ดาสตาน ซัตปาเยฟ – เอ็ดมิลสัน ฟิลโญ่
(4-2-3-1) : คอนสแตนตินอส โซลาคิส – โรดิเน, พานาโจติส เรตซอส, ลอเรนโซ่ ปิโรล่า, ฟรานซิสโก้ ออร์เตก้า – กานี่ การ์เซีย, คริสตอส มูซาคิติส – เกลสัน มาร์ตินส์, ชิกินโญ่, ดาเนียล โปเดนซ์ – อายุบ เอล คาบี
: โฆเซ่ มาเรีย ซานเชซ มาร์ตีเนซ (สเปน)
แม้ โอลิมเปียกอส ต้องเดินทางไกลมาถึงคาซัคสถาน แต่ด้วยคุณภาพทีมและประสบการณ์ในเวทียุโรปที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ทำให้ยังคงดูเป็นฝ่ายคุมเกมได้อยู่ดี ขณะที่ ไครัต อาจจะได้เล่นในบ้านแต่ศักยภาพยังเป็นรองหลายช่วงตัว หากโดนบุกกดดันต่อเนื่องมีโอกาสต้านไม่ไหว ดังนั้นคาดว่า โอลิมเปียกอส บุกชนะได้แน่
