สิงห์บลูส์ แพ้เพียง 8.3% จากเกมพรีเมียร์ลีกที่พวกเขาพบ ฟูแล่ม (3/36) ซึ่งถือเป็นอัตราต่ำที่สุดสำหรับทีมหนึ่งในการพบทีมต่างๆ อย่างน้อย 20 ครั้งขึ้นไป (8.3 แมนฯ ยูไนเต็ด vs แอสตัน วิลล่า)
เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือชาวอิตาลี ยังไม่ชัวร์ว่าจะมี โคล พาลเมอร์ หรือไม่ หลังบาดเจ็บโคนขาหนีบจากช่วงวอร์มอัพก่อนเกมกับ เวสต์แฮม และพลาดลงสนาม
สำหรับ ลีวาย โคลวิลล์, เบอนัวต์ บาเดียชิล, โรมีโอ ลาเวีย และ โอมารี่ เคลลี่แมน ยังคงชวดเหมือนเดิม ขณะที่ มิไคโล มูดริค ยังอยู่ในช่วงติดโทษแบนจากการตรวจโด๊ปไม่ผ่าน
เดอะ ค็อทเทเจอร์ส เอาชนะได้ 2-1 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ถือเป็นการหยุดสถิติไม่ชนะ 21 เกมติดต่อกันที่ไปเยือน เชลซี ในทุกรายการ พวกเขาไม่เคยคว้าชัยสองครั้งติดต่อกันในการมาเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้เลย
มาร์โก ซิลวา กุนซือชาวโปรตุเกส ยังไม่แน่ว่าจะสามารถใช้งาน แฮร์รี่ วิลสัน ได้หรือไม่ หลังถูกเปลี่ยนตัวออกจากเกมกลางสัปดาห์ที่เอาชนะ บริสตอล ซิตี้ ในคาราบาว คัพ
สำหรับ ราอูล ฮิเมเนซ มีโอกาสเบียด โรดรีโก้ มูนิซ ลงตัวจริง หลังลงสำรองมาเป็นฮีโร่ในเกมกลางสัปดาห์
(4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ – มาโล กุสโต้, โทซิน อดาราบิโอโย่, เทรโวห์ ชาโลบาห์, มาร์ก กูกูเรย่า – เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, มอยเสส ไกเซโด้ – เอสเตเวา, ชูเอา เปโดร, เปโดร เนโต้ – เลียม ดีแล็ป
(4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ – เคนนี่ เตเต้, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น, คัลวิน บาสซี่ย์, แอนโทนี่ โรบินสัน – ซานเดอร์ เบิร์จ, ซาช่า ลูคิช – อเล็กซ์ อิโวบี้, จอช คิง, เอมิล สมิธ โรว์ – ราอูล ฮิเมเนซ
: โรเบิร์ต โจนส์
เชลซี กลับมาเล่นด้วยความมั่นใจ และยิ่งเกมนี้เจอฟูแล่มที่เกมเยือนยังไม่น่าไว้ใจด้วย ฉะนั้นสิงห์บลูส์ที่มีครบทุกองค์ประกอบทั้งรุกและรับน่าจะบุกกดดันตั้งแต่ต้น และมีโอกาสเก็บชัยชนะพร้อมยิงถล่มขาดลอยได้สบาย